ข้อมูลสินค้า

D985 น้ำยาขจัดคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำ


รายละเอียด
เป็นน้ำยาสีใสไม่เป็นสารพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เหมาะสำหรับใช้ฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำได้อย่างดี
ขนาด
1 ลิตร 4 ลิตร 20 ลิตร
สี
กลิ่น
หมายเหตุ :

คุณสมบัติ    :    
น้ำยาขจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำสูตรเพิ่มประสิทธิภาพ 2 เท่า แทรกซึมเข้าสู่รูพรุนของผนังได้ดีและลึกกว่าน้ำยาทั่วไป        
จึงขจัดเชื้อราและแบคทีเรียได้ถึงรากถึงโคน ไม่เพียงแค่เชื้อราและตะไคร่น้ำที่อยู่บนพื้นผิวฟิล์มสีหรือผนังเท่านั้น        
แต่ยังขจัดลงลึก ถึงผนัง ไม่มีกลิ่นฉุน สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร

วิธีใช้งาน    :    
1.ล้างทำความสะอาดบริเวณที่มีคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำด้วยน้ำยา แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด         
2.ทิ้งให้พื้นผิวแห้งสนิทลงน้ำยาขจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำ ดราก้า Bio Kill ชุ่มๆ จำนวน 1 เที่ยว         
3.ทิ้งให้แห้งข้ามคืนเพื่อให้น้ำยาออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ทั้งหมด         
4.ทาสีทับตามระบบสีที่ใช้งาน        

อัตราส่วน :    
10 – 20 ตารางเมตรต่อลิตร ต่อเที่ยว        

ข้อแนะนำ    :    
- น้ำยาขจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำ ดราก้า มีกลิ่นอ่อน ไม่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ สามารถทาสีใหม่ทับได้
- หลังจากลงน้ำยาติดแล้ว ควรทาสีทับภายใน 7 วัน

วิธีเก็บรักษา    :    
ปิดฝาให้สนิท เก็บในที่มิดชิด ห่างจากเด็ก อาหาร และสัตว์เลี้ยง 

อายุการใช้งาน    :  
ประมาณ 1 ปี

ข้อควรระวัง    : 
สำหรับผู้ที่มีความไวต่อสารเคมี ไม่ควรสัมผัสกับน้ำยาโดยตรง เพราะอาจเกิดอาการแพ้ได้

คำเตือน    :    
1. ห้ามรับประทาน
2. ระวังอย่าให้เข้าตา ถูกผิวหนัง หรือสูดดม
3. ขณะใช้ควรสวมถุงมือยาง รองเท้ายาง และภายหลังการใช้หรือหยิบจับ ควรล้างถุงมือยาง รองเท้ายาง และมือด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้ง
4. ห้ามทิ้งผลิตภัณฑ์หรือภาชนะบรรจุที่ใช้หมดแล้วลงในแม่น้ำ คู คลอง แหล่งน้ำสาธารณะ

วิธีแก้พิษเบื้องต้น    :    
- หากกลืนกินผลิตภัณฑ์ ห้ามทำให้อาเจียน ให้ดื่มน้ำหรือนมปริมาณมากๆ เพื่อเจือจางแล้วรีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที พร้อมภาชนะบรรจุ ฉลากของผลิตภัณฑ์ไปด้วย
- หากเข้าตา ให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด จนอาการระคายเคืองทุเลา หากไม่ทุเลาให้ไปพบแพทย์    
- หากถูกผิวหนัง ให้ล้างออกด้วยน้ำจำนวนมากๆ หากเปื้อนเสื้อผ้าให้รีบถอดออก แล้วล้างร่างกายด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้ง
- หากสูดดม ให้รีบนำผู้ป่วยออกไปยังบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หากไม่ทุเลาให้ไปพบแพทย์